หูดเป็นอีกหนึ่งอาการยอดนิยมของคนไทย ซึ่งมีผู้ป่วยหลายคนที่มีอาการแล้วไม่รีบทำการรักษาแล้วเกิดอาการเชื้อลุกลาม จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่รุนแรงและบางคนยังมีปัญหากระทบถึงจิตใจ เนื่องจากหูดจะมีลักษณะเป็นผิวหนังนูนขึ้นมา มองแล้วบางคนไม่สบายตาและไม่สบายใจ
โดยหูด หรือ Warts เป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคผิวหนัง ดูดไขมัน ซึ่งไม่ได้เกิดจากการเสียดสีเหมือนกับตาปลา แต่เกิดจากผิวหนังในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายติดเชื้อไวรัส HPV ที่ชื่อว่า Human Papillomavirus ปัจจุบันมีการกลายพันธุ์เป็นหลายเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่จะพบ 2 เชื้อไวรัส ดังนี้
- HPV 1 คือ จะเป็นอาการหูดที่นิ้วมือ และเท้าของผู้ป่วย
- HPV 6 คือ จะเป็นเชื้อที่ไปแสดงอาการบริเวณอวัยวะเพศ
โดยเชื้อที่กลายพันธุ์ไม่เลือกเพศและอายุ ดังนั้นทุกคนมีโอกาสเกิดโรคหูดได้ทั้งหมด แต่อวัยวะที่มักจะสัมผัสเชื้อไวรัสได้ง่ายที่สุด คือ นิ้วมือ แล้วความรู้ในการป้องกันมีอะไรบ้าง? สามารถดูได้จากการแบ่งกลุ่มรักษาออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
ส่วนที่ 1 กลุ่มเสี่ยงที่มักจะเกิดอาการของหูดที่นิ้ว
อาการดังกล่าวจากสถิติพบว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษามากที่สุด เป็นคนในกลุ่มผิวสีและคนเอเชีย รวมไปถึงบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำอยู่แล้ว ในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะระยะใดก็ตาม ซึ่งเสี่ยงมากในการรับเชื้อไวรัส และอาการจะทรุดลงได้ เนื่องจากผู้ป่วยในกลุ่มนี้ จะต้องทานยากดภูมิคุ้มกันนั้นเอง หรืออีกหนึ่งกลุ่มที่เสี่ยงมาก คือ อาชีพของคนที่แร่เนื้อสัตว์ เพราะสัตว์ก็เป็นพาหะในการนำเชื้อได้
ส่วนที่ 2 ข้อควรระวัง โรคหูดที่นิ้ว อันตายกว่าที่คิด
การติดต่อกันของเชื้อไวรัส แม้ว่าการติดต่อจะไม่ใช่การไอ การจาม หรือการมีเพศสัมพันธ์กัน แต่หากมีเชื้อไวรัสที่นิ้วมือ ซึ่งเป็นอวัยวะในการหยิบจับสิ่งของ หากไปเผลอหยิบของที่สาธารณะและมีบุคคลอื่นมาใช้ร่วมกัน เชื้อไวรัสดังกล่าวจะไวต่อการเข้าสู่ผิวหนังมาก และบุคคลก็จะได้รับเชื้อไปไม่ทันตั้งตัว ยิ่งในคนที่มีแผลเปิดด้วยแล้ว เชื้อไวรัสจะเข้าไปฟักตัวได้ง่ายที่สุด ทว่าในการแพร่เชื้อ ก็จะอยู่ที่ชั้นของผิวหนัง สามารถลุกลามตามผิวหนังในส่วนอื่นของร่างกายได้ แต่จะไม่เข้าสู่กระแสเลือด
ระยะของการฝักตัวของเชื้อไวรัส จะเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ได้รับเชื้อแล้ว และจะไม่แสดงอาการทันที ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการผิวหนังนูนขึ้นมา นั้นคือ การแบ่งตัวของเชื้อสมบูรณ์แล้ว พร้อมที่จะแพร่ต่อไป โดยใช้เวลาประมาณ 2 – 8 เดือนกว่าที่จะรู้ตัว ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของร่างกายแต่ละคนด้วย
ส่วนที่ 3 อาการของหูดที่นิ้วมือแต่ละชนิด
- หูดชนิดทั่วไป หรือ Common Warts เป็นหูดมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาบ่อยที่สุด ลักษณะของอาการจะเป็นตุ่มนูนขึ้นมาจากผิวหนัง ก้อนกลม ผิวไม่เรียบ และแข็ง หัวของหูดจะด้าน และสีเทา หรือ น้ำตาล มีขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 2 – 10 มิลลิเมตร เกิดจากเชื้อ HPV ย่อย 2 และ 4 เป็นส่วนใหญ่
- หูดคนตัดเนื้อ หรือ Butcher is Warts เป็นหูดที่เกิดขึ้นตรงตัวเลย ในกลุ่มของอาชีพที่ต้องหั่นเนื้อเป็นประจำ ก็สามารถติดจากสัตว์ได้ ลักษณะของอาการจะเป็นตุ่มนูนและแข็งคล้ายกลับหูดแบบทั่วไป ทว่าจุดต่างจะเป็นขนาดของหูดที่ใหญ่ และสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ง่ายที่สุด ซึ่งเกิดจากเชื้อ HPV ย่อย 1 ถึง 4 และ 10 กับ 28
- หูดที่ฝ่ามือฝ่าเท้า หรือ Plamar warts and Plantar warts เป็นหูดที่เกิดขึ้นเฉพาะที่เลย ลักษณะของอาการจะเป็นตุ่มนูนขึ้นมาทรงกลม และผิวไม่เนียน ขรุขระ หรือหลายคนก็มองว่าคล้ายกับตาปลา ทว่าหูดดังกล่าวจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บได้
โดยแนวทางในการรักษาของแพทย์ก็จะทำการวินิจฉัยก่อนออกแบบการรักษา คือ จี้หูดออกด้วยไนโตรเจน ไฟฟ้า และการใช้เลเซอร์ บางรายที่อาการรุนแรงต้องใช้การผ่าตัด และอาการสามารถกลับมาเกิดขึ้นได้อีกเสมอ ดังนั้นเพื่อป้องการเกิดโรคหูดที่นิ้วมือ หรือ บริเวณต่าง ๆ ไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกับคนอื่น และขยันล้างมือบ่อย ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
